วันพุธที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ครกกระเบือ


 ครกกระเบือ


เป็นครกดั้งเดิมของคนไทย ทำจากดินปั้นแล้วเผา  ที่นิยมใช้กันในครัวเรือน ไม่ต่ำกว่า800ปีครกกระเบือที่เก่าแก่ที่สุดเป็นครก สมัยอยุธยาทำด้วยดินเผาสีดำ เป็นครกปากกว้าง ขอบปากปั้นเป็นรูปกลมมนโค้งวงกลม ครกกระเบือทั่วไป มีทรงสูงกว่าครกหิน เหมาะกับอาหารที่ไม่ต้องให้ละเอียดมาก เช่น น้ำพริก
ส้มตำ ครกกระเบือใช้คู่กับสากที่ทำจากไม้เนื้อแข็ง เรียกไม้ตำน้ำพริก แต่ชาวบ้านเรียก "สากกระเบือ"


ลักษณะรูปทรงปัจจุบัน มีการดัดแปลงประยุกต์ให้เข้ากับวัฒนธรรมท้องถิ่น และการใช้ประโยชน์ บริเวณฐานจะป้านออกเล็กน้อยเพื่อช่วยรับน้ำหนักได้ดีขึ้น

ข้อเด่นของครกประเภทนี้คือ เบ้ากลมภายในครกจะลึกและกว้าง
สามารถตำได้คราวละมากๆ











ที่มา

www.thaigoodview.com/











วันพุธที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2555

เบญจรงค์

เครื่องปั้นดินเผา ประเภทเบญจรงค์



ชุดกา ลายกนก


เครื่องเบญจรงค์หมายถึง เครื่องปั้นดินเผาเคลือบ เขียนลายโดยลงยาด้วยสีต่างๆสีหลักทั้ง 5 อันมีสีดำ ขาว เหลือง แดง และเขียว(หรือคราม) เป็นเครื่องถ้วยที่ต้องใช้ฝีมือสูง ต้องละเอียด ประณีต ปัจจุบันได้รับความนิยมแสดงความเป็นไทย ลายยอดนิยม ลายกหนก ลายพุ่มข้าวบิณฑ์ ลายเทพนม นรสิงห์เป็นต้น


ลายพุ่มข้าวบิณฑ์



ลายเทพนม 



เครื่องถ้วยลายนรสิงห์



อ้างอิง
http://student.swu.ac.th/























โอ่งมัีงกร

โอ่งมังกร


การทำโอ่งมังกรนั้น เริ่มจากช่างจีนซึ่งมีความชำนาญในการทำเครื่องเคลือบชื่อ นายจือเหม็ง แซ่อึ้ง โอ่งมังกรหรือโอ่งราชบุรีมีการผลิตมากที่สุดในประเทศไทย 
ช่วงปากโอ่ง นิยมเป็นลายดอกไม้หรือลายเครือเถา 
ช่วงลำตัว นิยมเขียนลายเป็นรูปมังกร และมังกรสองตัวเกี่ยวพันกัน ช่างเขียนต้องมีความชำนาญมาก

การเคลือบ

ผสมขี้เถ้าและน้ำโคลนและสีเล็กน้อยเป็นสีที่ได้จากออกไซด์ของเหล็ก การเคลือบ ใช้น้ำยาเคลือบราดให้ทั่วทั้งด้านในและด้านนอกแล้ว นำไปวางผึ่งลมไว้ 
นอกจากนี้น้ำยาที่เคลือบทำให้สีสวยเมื่อเผาช่วย สมานรอยต่างๆในเนื้อดินให้เข้ากัน


 เตาเผา

เรียกว่า ตาจีนหรือเตามังกร ก่อด้วยอิฐทนไฟ หัวเตาเจาะเป็นช่องประตู ลำเลียงโอ่ง ด้านบนของเตาสองข้างเจาะรู  เรียกว่า "ตา"เพื่อใช้ใส่เชื้อเพลิงก่อนเผาใช้อิฐปิดทางให้มิดชิด มิให้ความร้อนระบายออกมาได้ ความร้อนในเตาต้องมีอุณหภูมิถึง 12,000 องศาเซลเซียส ดูโอ่งรอจนกว่าจะสุก เสร็จแล้วทิ้งไว้ 10-12ชั่วโมง ปัจจุบันโอ่งมังกรส่งออกขายตามท้องตลาดทั่วประเทศ


อ้างอิง
http://rb-work.blogspot.com
























































วันอังคารที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

เครื่องถ้วย

เครื่องถ้วย





เครื่องปั้นดินเผาเคลือบตรงกับภาษาอังกฤษว่า เซรามิกส์(Ceramics) ซึ่งมาจากภาษากรีกโบราณว่า เครามอส(Keramos) แปลว่า สิ่งที่ถูกเผา เครื่องถ้วยยังมีความหมายรวมไปถึงภาชนะอื่นๆ เช่น เครื่องแก้วเครื่องปูน เป็นต้น สำหรับเครื่องถ้วยหรือเครื่องปั้นดินเผาเคลือบนั้นมีลักษณะเนื้อดินอยู่ ๒ ชนิด คือ เนื้อดินสโตนแวร์ และเนื้อดินพอร์ซเลนหรือมักเรียกว่าเนื้อกระเบื้อง


๑). เครื่องถ้วยเนื้อดินชนิดสโตนแวร์ หมายถึง เครื่องถ้วยที่เผาถึงจุดสุกตัว (vitreous ware)ในอุณหภูมิสูง ๑๑๙๐-๑๓๙๐ องศาเซลเซียส ผลิตภัณฑ์ ประเภทนี้มีเนื้อหยาบ แน่น ทึบแสง และมีความแข็งแกร่งมาก น้ำและของเหลวไม่สามารถไหลซึมผ่านได้


วัตถุดิบที่ใช้ต้องมีความทนไฟสูง และมีความเหนียวแข็งแกร่ง เครื่องถ้วยเนื้อดินแกร่งสโตนแวร์นิยมทำภาชนะใส่อาหาร เช่น จาน ชามถ้วยชากาแฟ เหยือกน้ำ แจกัน
และยังนิยมทำภาชนะบรรจุเช่น ไห

 ๒). เครื่องถ้วยเนื้อดินชนิดพอร์ซเลน หรือเนื้อกระเบื้อง เป็นเครื่องถ้วยที่ต้องเตรียมดินขึ้นเป็นพิเศษ เนื้อดินเมื่อเผาสุกตัวจะมีสีขาวและโปร่งแสง  ส่วนผสมของเนื้อดินประกอบด้วยหินควอตซ์ (หินฟันม้า) ดินเคโอลินดินเหนียวขาว เมื่อนำไปเผาไฟแล้วเนื้อดินละเอียด แข็งแกร่ง และเนื้อบาง เนื่องจากเนื้อดินประเภทพอร์ซเลนมีความเหนียวน้อยจึงนำไปขึ้นรูปด้วยวิธีหล่อและวิธีขึ้นรูปแบบใบมีดเป็นส่วนใหญ่

ประเภทของเครื่องถ้วย 

เครื่องถ้วยส่วนใหญ่ ได้แก่ ภาชนะเครื่องใช้ อาทิ ถ้วยชาม โถ จาน แจกัน กระปุกขวด โคม ตลับ เป็นต้น
ซึ่งสามารถแยกประเภทได้อย่างกว้าง
๑).ประเภทถ้วยชาม มีแบบ รูปร่าง และขนาดต่างๆ ทั้งเคลือบสีเดียวและเคลือบหลายสีมีเนื้อดินทั้งแบบสโตนแวร์และพอร์ซเลน เพิ่มการตกแต่งเขียนลายใต้เคลือบและเขียนลายบนเคลือบ

๒). ประเภทเครื่องประดับตกแต่ง เช่น แจกันรูปปั้น โคมไฟ 


 

๓). ประเภทเครื่องสุขภัณฑ์ ได้แก่ อ่างล้างหน้า เหยือกน้ำ 



การผลิตเครื่องถ้วย

  กรรมวิธีผลิตหรือการขึ้นรูปเครื่องถ้วย
  อุปกรณ์และเครื่องมือต่างๆ ที่ช่วยในการผลิต วิธีที่นิยมในการผลิตมีวิธีขึ้นรูปทรงต่างๆและวิธีหล่อ
  วิธีขึ้นรูปทรงต่างๆ เป็นการขึ้นรูปโดยวิธีใช้มือ ซึ่งเป็นที่นิยมใช้กันมาก มีหลายวิธี เป็นต้นว่า การขึ้นรูปแบบอิสระ การขึ้นรูปแบบแผ่นการขึ้นรูปแบบขด การขึ้นรูปแบบแป้นหมุน การขึ้นรูปแบบใบมีด และการขึ้นรูปแบบใช้พิมพ์กด

พัฒนาการของเครื่องถ้วย 
เกิดขึ้นจากความจำเป็นของมนุษย์ที่ต้องการภาชนะใส่อาหาร น้ำ และเครื่องใช้จำเป็นอื่นๆ ต่อมาเมื่อมนุษย์มีความเจริญขึ้นก็ได้พัฒนาเครื่องถ้วยให้มีรูปแบบและคุณภาพดีขึ้นตามลำดับ และนำมาใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้อย่างกว้างขวาง





อ้างอิง

http://guru.sanook.com/



















การปั้นหม้อดิน

การปั้นหม้อดิน


 
วัตถุดิบและส่วนประกอบ


- ดินเหนียว
- ทราย
- น้ำ
- เครื่องโม่
- แท่นหมุน
- ไม้ตี ไม้ทำลวดลาย
- หินรองตี
- อุปกรณ์ในการสร้างลวดลาย





                                                                        ดินเหนียว





วิธีการทำ

1). เตรียมดิน โดยจัดหาดินเหนียวที่มีคุณภาพดีเนื้อละเอียด
2). นำดินเหนียวมานวดให้เหนียวพอดี
3). การปั้น นำดินเหนียวที่เตรียมไว้มาปั้นขึ้นรูปทรงต่างๆ
4). การเผา นำไปเผาโดยใช้ไฟอ่อนๆปล่อยให้หม้อร้อนจัดจนสุกแดงเหมือนถ่าน แล้วจึงนำออกจากเตาทิ้งไว้ให้เย็นจะมีสีแดง ถ้าเป็นสีดำจะไม่สุกดี 

ดินที่ใช้เป็นดินเหนียวธรรมชาติ ที่มีสิ่งเจือปนต่างๆน้อยมาก การเตรียมดินจะทำอย่างพิถีพิถันโดยผ่านกระบวนการ ต่างๆ จนได้เนื้อดินที่สมบูรณ์เหมาะแก่การนำไปปั้นเพื่อให้รูปทรงเครื่องปั้นเรียบสวยงาม การเผานั้น ใช้อุณหภูมิที่ 800 องศาเซลเซียส จนได้เครื่องปั้นดินเผาที่มีสีส้มและแกร่งตามลักษณะธรรมชาติ 


เครื่องปั้นดินเผาที่เผาเสร็จแล้ว


ลักษณะที่โดดเด่น คือ การใช้ดินเหนียวขึ้นรูปแบบโบราณ มีการขึ้นรูปด้วยการตีและใช้ดินสีแดงทาทับก่อนเผาจึงไม่มีสิ่งที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพเวลาใช้กับการประกอบอาหารและใส่น้ำดื่มเนื่องจากดินสีแดง เป็นดินที่ได้มาจากธรรมชาติ


อ้างอิง
 http://www.otoptoday.com/














การแกะสลัก ลวดลาย เครื่องปั้นดินเผา

การแกะสลักลวดลายเครื่องปั้นดินเผา

ลายที่แกะสำหรับตกแต่งเครื่องปั้นมี 3 ประเภท ตามลักษณะของวิธีการแต่งลาย คือ

1).ลายที่เกิดจากการขีดหรือสลัก

2).ลายที่เกิดจากการฉลุลายโปร่ง

3).ลายที่เกิดจากการกดให้เนื้อดินนูนขึ้น หรือต่ำลงตาม แบบของลาย






เครื่องปั้นดินเผาไทย มรดกไทย

เครื่องปั้นดินเผาไทย ที่ถือว่าเป็นมรดกของชาติ กำเนิดและมีวิวัฒนาการสั่งสมทางด้านศิลปะภูมิปัญญาพื้นบ้านมาอย่างยาวนานและกว่าที่จะกลายมาเป็นอุตสาหกรรมเซรามิกที่ยิ่งใหญ่ มีมูลค่าการส่งออกนับหมื่นล้านบาท ต้องอาศัยการก่อร่างสร้างรูปมาจากระดับท้องถิ่น ระดับชุมชน อาศัยทั้งความรู้ เชิงช่างทางศิลปะ ทรัพยากร เพื่อที่จะสร้างสินค้าส่งออกมูลค่ามหาศาลให้เกิดขึ้นได้ ทุกวันนี้เครื่องปั้นดินเผาของชาวลำปางนั้นมิได้เป็นเพียงอุตสาหกรรมพื้นบ้าน เพราะขยับขยายสู่อุตสาหกรรมระดับประเทศ

เครื่องปั้นดินเผาไทยสามารถแบ่งออกเป็น4กลุ่มใหญ่

เอิร์ทเทนแวร์  -ดูดซึมน้ำมาก แตกหักง่าย เนื้อจะมีสีน้ำตาลแดง เช่น เครื่องปั้นดินเผาพื้นบ้าน
สโตนแวร์       -เนื้อดินมีสีขาวออกเทาๆ เช่น เครื่องสังคโลก
พอร์ชเลน       -เนื้อผลิตภัณฑ์จะมีสีขาว แข็งแกร่งและหนา นิยมทำเป็นผลิตภัณฑ์บนโต๊ะอาหาร
โบนไชน่า      -ใช้ผลิตถ้วย จาน ชามที่ต้องการความขาวมากเป็นพิเศษ เนื้อภาชนะจะบาง เบา และมีความโปร่งแสง



เครื่องปั้นดินเผา พัฒนารูปแบบของผลิตภัณฑ์ให้หลากหลาย มีปริมาณและคุณภาพมากยิ่งขึ้น จึงมีการใช้วัตถุดิบที่มากด้วยปริมาณ และชนิดตามไปด้วย ซึ่งวัตถุดิบสำคัญในการทำเครื่องปั้นดินเผาไทย
 ก็คือดินขาวจากระนอง ดินดำ หรือบอลเคลย์ หินฟันม้า และทรายแก้ว จากหลายๆ แหล่งทั่วประเทศ


เครื่องปั้นดินเผา ยังนำมาประยุกต์ผสมผสานกับองค์ความรู้ใหม่ ผสมผสานกับเทคโนโลยี  ซึ่งเคยเป็นของพื้นบ้านธรรมดาๆ ก็จะกลายมาเป็นเซรามิกระดับสากล สามารถนำไปขาย และส่งออกสร้างมูลค่ามหาศาล และสร้างความภาคภูมิใจให้กับคนไทยทั้งประเทศได้


อ้างอิง หาวิดีโอใน you tube ว่า หมู่บ้านท่องเที่ยว otop เซรามิก 

http://www.vituzoh.com/
  


















วันจันทร์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

เครื่องปั้นดินเผาล้านนา

เครื่องปั้นดินเผาล้านนา

ชนชาติเก่าแก่ที่สุดรู้จักการทำเครื่องปั้นดินเผา คือ ชาวอียิปต์โบราณ อาศัยกันอยู่ตามริมฝั่งแม่น้ำไนท์ตามประวัติศาสตร์การขุดค้นพบซากของเหยือกน้ำ ได้ทำการวิจัยเครื่องปั้นดินเผานี้ว่ามีอายุถึงหมื่นปี และยังมีชนชาติเก่าแก่ที่สามารถทำได้เช่นกัน ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น เปอร์เซีย อาหรับ กรีก โรมัน เป็นต้น

เครื่องปั้นดินเผา เป็นเครื่องมือเครื่องใช้ที่มีความสัมพันธ์ เกี่ยวเนื่องกับวิถีชีวิตของมนุษย์อย่างแนบแน่นมาเป็นเวลายาวนาน

เพราะเครื่องปั้นดินเผาเป็น ผลิตภัณฑ์ที่สร้างขึ้นบนเงื่อนไขความต้องการของสังคมที่เป็นเจ้าของ
เป็นผลงานจากมันสมองและฝีมือของผู้สร้างเครื่องปั้นดินเผา ซึ่งมิได้มีความหมายแต่เพียงคุณค่าทางสุนทรียะเท่านั้น แต่ยังเป็นงานฝีมือที่แสดงถึงภูมิปัญญาและพัฒนาการทางด้านเทคโนโลยี ของ
ชุมชนที่สั่งสมและสืบเนื่องกันมาเป็นเวลานาน

เครื่องถ้วยล้านนา 

ไหเคลือบสีเขียวอ่อน





เครื่องถ้วยล้านนา มีอายุประมาณพุทธศตวรรษที่ ๒๐ ส่วนมากมักทำด้วยเนื้อดินละเอียดและบาง ไม่หนัก และเทอะทะอย่างเครื่องสังคโลก แต่น้ำเคลือบนั้น ส่วนใหญ่แล้ว สวยงามสู้เคลือบสังคโลกไม่ได้

ส่วนใหญ่เป็นเตากูบ ก่อด้วยดินแล้วเผาให้แข็งตัว ลักษณะรูปร่าง และการแบ่งสัดส่วนของเตา คล้ายกับเตาสมัยสุโขทัย คือ แบ่งออกเป็น ๓ ส่วน ส่วนหน้าเป็นที่ใส่เชื้อเพลิง ตอนกลางเป็นที่ตั้งผลิตภัณฑ์เข้าเผา และส่วนท้ายเป็นปล่องไฟ ระบายความร้อน ผลิตภัณฑ์แต่ละแหล่งคล้ายกัน มาก
จะแตกต่างเฉพาะในรายละเอียดปลีกย่อย เท่านั้น

 น้ำต้น  หรือ หม้อน้ำ เป็นภาชนะเครื่องปั้นดินเผา(คล้ายคณโฑ)


มีรูปแบบและลวดลายแตกต่างกันไปตามท้องถิ่นและฝีมือช่างแต่ละคน
ถือเป็นเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมความเป็นอยู่อย่างหนึ่ง ของ ชาวล้านนา (ภาคเหนือตอนบน)
ซึ่งเป็นเครื่องปั้นดินเผา ที่ชาวล้านนาเค้านิยมเอาไว้ใส่น้ำดื่ม

เครื่องปั้นดินเผาในประเทศไทย โดยเฉพาะเครื่องปั้นดินเผาล้านนา เป็นศูนย์กลางรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องปั้นดินเผา เพื่อใช้ในการศึกษาค้นคว้า และวิจัยโดยใช้เครื่องปั้นดินเผาเป็นเครื่องมือในการศึกษา ประวัติศาสตร์ การเมือง เศรษฐกิจและสังคม ตลอดจน วิถีชีวิตของชุมชนของยุคสมัยที่มีการผลิตเครื่องปั้นดินเผานั้นๆ  












อ้างอิง
 http://catholic.or.th/
 http://school.obec.go.th/  
 http://fotobug.net